The Pursuit of Happyness movie review (Smile first, Dad taught me)
The Pursuit of Happyness movie review (Smile first, Dad taught me)
Blog Article
รีวิวหนัง The Pursuit of Happyness (ยิ้มไว้ก่อน พ่อสอนไว้)
ประเภทของภาพยนตร์: ดราม่า
วันที่เข้าฉาย: 15 ธันวาคม ค.ศ. 2006
ผู้กำกับ: Gabriele Muccin
นักแสดงนำ: วิลล์ สมิธ/จาเดน สมิธ/แทนดี้ นิวตัน (Thandie Newton)/ไบรอัน โฮว์ (Brian Howe)/เจมส์ คาเรน (James Karen)/แดน คาสเทลลาเนตา (Dan Castellaneta)/เคิร์ท ฟุลเลอร์ (Kurt Fuller)/สก็อต เคลซ (Scott Klace)
ความยาว : 117 นาที
เรื่องย่อ:
ดูหนังใหม่ The Pursuit of Happyness เล่าเรื่องราวชีวิตของ คริส การ์ดเนอร์ (รับบทโดย วิลล์ สมิธ) นักธุรกิจที่กำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินอย่างหนักในช่วงต้นทศวรรษ 80 คริสใช้ชีวิตอยู่กับ ลินดา ภรรยาของเขา (รับบทโดย แธนดี้ นิวตัน) และลูกชายวัย 5 ขวบ คริสโตเฟอร์ จูเนียร์ (รับบทโดย เจเดน สมิธ) ในซานฟรานซิสโก ครอบครัวของเขาพบกับความยากลำบากเมื่อคริสลงทุนในธุรกิจเครื่องสแกนความหนาแน่นของกระดูก แต่สินค้านี้กลับขายยากและทำให้พวกเขาเผชิญหน้ากับภาระหนี้สินที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ความเครียดที่ก่อตัวขึ้นทำให้ลินดาตัดสินใจทิ้งคริสและย้ายไปอยู่ที่อื่น ทำให้คริสต้องรับภาระในการดูแลคริสโตเฟอร์เพียงลำพัง ในขณะที่เขากำลังพยายามหาทางออกจากสภาพการณ์ทางการเงินที่รันทด คริสพบโอกาสเมื่อได้เจอกับนายธนาคารที่ประสบความสำเร็จบนถนน คริสรู้สึกมีแรงบันดาลใจและสมัครเข้าโครงการฝึกงานที่บริษัท Dean Witter ซึ่งเป็นบริษัทด้านการเงินที่มีชื่อเสียง แม้ว่าโครงการนี้จะไม่มีเงินเดือนให้ก็ตาม
คริสต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายในการเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวและในขณะที่กำลังฝึกงาน คริสและลูกชายต้องไร้บ้านและต้องอาศัยที่พักพิงในที่ต่างๆ ทั้งห้องน้ำสาธารณะและที่พักพิงคนไร้บ้านในโบสถ์ แต่ด้วยความรักและความรับผิดชอบที่มีต่อลูกชาย คริสไม่เคยหยุดที่จะสู้เพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ลูกชายของเขาได้รับโอกาสที่ดีกว่า
การฝึกงานที่ Dean Witter เต็มไปด้วยความกดดันและการแข่งขัน เนื่องจากมีคนสมัครหลายสิบคน แต่มีเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้นที่จะได้รับการจ้างงาน ด้วยความทุ่มเทและความพยายามที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย คริสทำงานหนักและทุ่มเทให้กับการเรียนรู้ รวมถึงการดูแลลูกชายที่เขารักอย่างเต็มที่ แม้ต้องอดทนต่อความหิวและความเหนื่อยล้า คริสยังคงยิ้มไว้เสมอและให้กำลังใจตัวเองและลูกชายอยู่ตลอด
สุดท้าย ความมุ่งมั่นของคริสก็ได้ผล เมื่อเขาได้รับการจ้างงานและเริ่มต้นเส้นทางสู่ความสำเร็จในโลกการเงิน นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ดีในชีวิตของเขา และเปิดโอกาสให้คริสโตเฟอร์มีอนาคตที่ดีกว่าเดิม
The Pursuit of Happyness เป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความหวัง ความมุ่งมั่น และความรักของพ่อที่มีต่อลูก มันสะท้อนถึงการต่อสู้ในชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ด้วยความเชื่อมั่นและการไม่ยอมแพ้ สุดท้ายแล้วความสุขก็สามารถเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ชมมองเห็นถึงความสำคัญของการยิ้มรับกับชีวิต ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหน และไม่ยอมให้สิ่งใดมาทำลายความหวังและความฝันของเราได้
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:
The Pursuit of Happyness เป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ คริส การ์ดเนอร์ (รับบทโดย วิลล์ สมิธ) ผู้ซึ่งเผชิญกับความท้าทายและความยากลำบากมากมายในชีวิต ด้วยความฝันและความรักที่มีต่อลูกชาย เขาพยายามที่จะสร้างชีวิตที่ดีขึ้น แม้ในสถานการณ์ที่ทุกอย่างดูสิ้นหวัง หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดถึงความมุ่งมั่น ความอดทน และความหวังอย่างลึกซึ้ง ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกได้ถึงแรงบันดาลใจและพลังใจในการเผชิญหน้ากับปัญหาต่าง ๆ mvhd24.com
ตัวละครของคริส การ์ดเนอร์ถูกสร้างขึ้นมาอย่างละเอียดอ่อน วิลล์ สมิธ สามารถถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครได้อย่างสมจริง ทำให้ผู้ชมรู้สึกใกล้ชิดกับตัวละคร และรับรู้ถึงความเจ็บปวด ความยากลำบาก และความหวังที่ค่อย ๆ งอกงามขึ้นในใจของเขา ขณะที่ เจเดน สมิธ ที่รับบทเป็น คริสโตเฟอร์ ลูกชายของคริส การ์ดเนอร์ ก็นำเสนอความไร้เดียงสาและความเชื่อใจในพ่อของเขาได้อย่างน่าประทับใจ สายสัมพันธ์ที่อบอุ่นระหว่างพ่อและลูกเป็นหัวใจของภาพยนตร์ และเป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องราวนี้มีความหมายลึกซึ้ง
หนังเรื่องนี้โดดเด่นที่การนำเสนอความยากลำบากในชีวิตอย่างไม่ปกปิด ทุกฉากสะท้อนถึงการต่อสู้กับความยากลำบากทางการเงิน และการต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีบ้านอยู่ แม้กระทั่งห้องน้ำสาธารณะก็กลายเป็นที่หลบภัยในบางคืน นั่นทำให้เรารู้สึกเห็นใจและเข้าใจถึงความมุ่งมั่นของตัวละครคริส ซึ่งไม่เคยยอมแพ้ที่จะพยายาม แม้แต่ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุด
จุดเด่นอีกอย่างของภาพยนตร์คือการสะท้อนถึงความจริงของชีวิต ความสำเร็จไม่ได้มาโดยง่าย และการที่คริสตัดสินใจที่จะสมัครโครงการฝึกงานที่ไม่มีเงินเดือน และต้องแข่งกับคนอื่น ๆ หลายสิบคนเพียงเพื่อจะได้งานเดียว เป็นการแสดงถึงความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อความฝัน และการทำทุกอย่างเพื่อลูกชายของเขา
การกำกับของ กาเบรียล มูชิโน ถ่ายทอดออกมาอย่างละเมียดละไมและน่าจับใจ ทุกฉากถูกจัดวางอย่างดี ทำให้เรารู้สึกถึงความสิ้นหวังและความหวังที่สลับกันไปตลอดเวลา และยังมีจังหวะที่สร้างอารมณ์ซึ้งกินใจเมื่อคริสประสบความสำเร็จหลังจากความพยายามอย่างหนัก สิ่งนี้ทำให้หนังเรื่องนี้มีความหวังและเป็นกำลังใจให้กับผู้ชมว่า ไม่ว่าชีวิตจะลำบากแค่ไหน ความพยายามและความมุ่งมั่นจะนำพาเราไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นได้เสมอ
The Pursuit of Happyness ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของการตามหาความสุข แต่มันยังสะท้อนถึงการไม่ยอมแพ้และการหาหนทางในการยิ้มรับกับชีวิต แม้จะเจอกับความยากลำบากและอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย หนังเรื่องนี้ทำให้ผู้ชมตระหนักถึงคุณค่าของความพยายาม และความหมายที่แท้จริงของคำว่า "ความสุข" ซึ่งไม่ได้อยู่ที่ความสำเร็จ แต่คือการเดินทางและการต่อสู้เพื่อสิ่งที่เรารัก
หากคุณกำลังมองหาหนังที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และจะทำให้คุณรู้สึกมีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาชีวิต The Pursuit of Happyness เป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด เรื่องราวของการไม่ยอมแพ้และความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพ่อสู่ลูก เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณยิ้มและรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #ThePursuitofHappyness #ยิ้มไว้ก่อน พ่อสอนไว้
กลับด้านบน Report this page